หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

อู๋ เฉิงเอิน กวีจีน ผู้แต่งไซอิ๋ว Wu Cheng'en

 


อู๋ เฉิงเอิน กวีจีน ผู้แต่งไซอิ๋ว Wu Cheng'en

อู๋ เฉิงเอิน กวีจีน ผู้แต่งไซอิ๋ว Wu Cheng'en

อู๋ เฉิงเอิน กวีจีน ผู้แต่งไซอิ๋ว Wu Cheng'en


 - อู๋ เฉิงเอิน : Wu Cheng'en


 - เกิด : ค.ศ.1500 หรือ 1505


 - เกิดที่ : หฺวายอาน ทางตอนกลางของมณฑลเจียงซู ในภาคตะวันออกของประเทศจีน 


 - ยุค : ราชวงศ์หมิง


 - ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า รู่จง (汝忠)


 - เป็นนักประพันธ์ กวี และนักการเมืองชาวจีนในสมัยราชวงศ์หมิง  บุคคลสำคัญของจีน


 - เขาเป็นผู้แต่งเรื่อง Journey to the West ไซอิ๋ว เป็นนิยายคลาสสิกของจีน


 - ไซอิ๋วถือเป็น สี่สุดยอดวรรณกรรมจีน ร่วมกับ สามก๊ก (หลอกว้านจง) ซ้องกั๋ง / 108 ผู้กล้าแห่ง

    เขาเหลียงซาน (ชือ ไน่อัน) และ ความฝันในหอแดง  เฉาเสวี่ยฉิน


 - พ่อของขาเป็นคนมีการศึกษาที่ดีแต่ด้วยมีปัญหาด้านการเงินจึงต้องผันตัวมาเป็นช่างฝีมือ


 - อู๋ เฉิงเอิน เป็นคนมีสติปัญญาดีและก็ยังมีใจใฝ่หาสนใจในงานด้านวรรณกรรม และความรู้ด้านต่างๆ

    หลายแขนง เขาชอบอ่านประวัติศาสตร์ นวนิยายแปลก ๆ เรื่องลี้ลับ


 - อู๋ เฉิงเอิน สอบเข้ารับราชการตามระบบการศึกษาและสอบคัดเลือกหลายครั้ง แต่ไม่ผ่าน แต่ก้ยังเคย

    ได้เข้ารับราชการเป็นกรณีพิเศษอยู่พักนึง


 - อู๋ เฉิงเอิน เขารู้สึกไม่สนุกกับงาน และก็ได้ลาออกมาเขียนนิยาย กวี วรรณกรรมที่ตัวเองชอบ 


 - เขากลายเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ มีผลงานทั้งกวีนิพนธ์และร้อยแก้ว และเป็นเพื่อนกับนักเขียน

    ร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงหลายคน


 - งานที่ประสบความสำเร็จและโด่งดังที่สุดของเขาคือ ไซอิ๋ว 


 - นอกจากไซอิ๋ว  แล้ว อู๋ เฉิงเอิน ยังเขียนบทกวีและเรื่องราวมากมาย รวมถึงนวนิยายเรื่อง Yuding Animal


 - งานส่วนใหญ่ของเขาจึงสูญหายไป ตามบันทึกมีการรวบรวมเรื่องผี ที่หายไป


 - เขาถูกวิจารณ์จากคนรุ่นหลังว่า มีความอ่อนไหวและมีสติปัญญาที่หลากหลาย และเขามีหนังสือ

    หลากหลายประเภท เขาเขียนบทกวีและเรียงความได้อย่างสง่างามและคล่องแคล่ว


 - เขาเก่งในด้าน ล้อเล่น และเขาเขียนบันทึกเบ็ดเตล็ดหลายประเภท ถ้าในยุคเดียวกันที่เป็นฝั่งตะวันตก 

    ก็จะมีบุคคลสำคัญ ด้านวรรณกรรม คือ วิลเลียม เชคสเปียร์  William Shakespeare  ที่มีไทม์ไลน์

    คาบเกี่ยวกับกับ อู๋ เฉิงเอิน


 - เสียชีวิต :  ค.ศ. 1582 อำเภอซานหยาง จังหวัดหฺวายอัน (ปัจจุบัน อำเภอหฺวายอัน เมืองหฺวายอัน มณฑลเจียงซู)


 - ในปี2016 รัฐบาลเทศบาลหฺวายอาน ได้ร่วมกันจัดตั้ง "รางวัล Wu Chengen Novel Award" และมุ่งมั่น

    ที่จะทำให้รางวัลนี้เป็นรางวัลวรรณกรรมที่ทรงอิทธิพลระดับนานาชาติ





วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

คริสโตเฟอร์ เรน ( Sir Christopher Wren ) ยอดสถาปนิกโลก

 


คริสโตเฟอร์ เรน ( Sir Christopher Wren ) ยอดสถาปนิกโลก

คริสโตเฟอร์ เรน ( Sir Christopher Wren )


คริสโตเฟอร์ เรน ( Sir Christopher Wren ) ยอดสถาปนิกโลก


 - เซอร์ คริสโตเฟอร์ เรน : Sir Christopher Wren


 - เกิด : 20 ตุลาคม ค.ศ. 1632  East Knoyle วิลต์เชอร์ (มณฑลทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหราชอาณาจักร) อังกฤษ


 - เป็นหนึ่งในสถาปนิกชาวอังกฤษที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในประวัติศาสตร์


 - และยังมีความสามารถในด้าน กายวิภาคศาสตร์ นักดาราศาสตร์ นักเรขาคณิต และนักคณิตศาสตร์-นักฟิสิกส์


 - ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในการสร้างโบสถ์ 52 ( บางข้อมูลบอกออกแบบ 54 แห่ง ) หลังในลอนดอน

    หลังเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1666


 - มหาวิหารเซนต์ปอล St Paul's Cathedral หรือ อาสนวิหารเซนต์พอล  ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงาน

    ชิ้นเอกของเขา ซึ่งตรงอยู่บนเขาลัจเจท จุดสูงสุดของนครลอนดอน


 - ได้รับการศึกษาด้านฟิสิกส์ภาษาละตินและอริสโตเตเลี่ยน ฟิสิกส์ หรือฟิสิกส์ของอริสโตเติล เป็นรูปแบบ

    ของวิทยาศาสตร์ธรรมชาติที่อธิบายไว้ในผลงานของนักปรัชญาชาวกรีกอริสโตเติล จากมหาวิทยาลัย

    ออกซ์ฟอร์ด


 - เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งราชสมาคม (Royal Society) และดำรงตำแหน่งประธานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1680 ถึง 1682

    ในบรรดาผู้ก่อตั้งเหล่านั้น ได้แก่ Christopher Wren, Robert Boyle (โรเบิร์ต บอยล์) , John Wilkins

    (จอห์น วิลกินสัน ), William Brouncer และ Robert Moray (โรเบิร์ต มอร์ลีย์)


 - Royal Society  ราชสมาคม คือ ชื่ออย่างเป็นทางการว่า The Royal Society of London for Improving

     Natural Knowledge สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติของสหราชอาณาจักร ส่งเสริมวิทยาศาสตร์และ

    ประโยชน์ของวิทยาศาสตร์ ตระหนักถึงความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ สนับสนุนวิทยาศาสตร์ที่โดดเด่น

    ให้คำแนะนำด้านวิทยาศาสตร์การศึกษา และการมีส่วนร่วมของสาธารณะ


 - ผลงานทางวิทยาศาสตร์ของเขาได้รับการยกย่องอย่างสูงจาก Isaac Newton (ไอแซก นิวตัน) และ

    Blaise Pascal (แบลซ ปาสกาล)


 - เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในช่วงการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์


 - ได้รับเชิญจากพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ให้ดูแลการสร้างแนวป้องกันท่าเรือแห่งใหม่ที่แทนเจียร์ (เป็นเมือง

    ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโมร็อกโก ) ซึ่งขณะนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของอังกฤษ


 - แลได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการซ่อมแซมอาสนวิหารเซนต์ปอลเก่า ซึ่งผลภายหลังการสร้างใหม่นั้น

    เป็นผลงานของเขาในท้ายที่สุด


 - ใช้คณิตศาสตร์ในการสร้างป้อมปราการทางทหาร


 - เขายังเคยได้พบกับ จิอัน โลเรนโซ แบร์นีนี (Gian Lorenzo Bernini) สถาปนิกชื่อดัง ในตอนที่ไป

    ต่างประเทศครั้งแรก คือ ฝรั่งเศส ซึ่งถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญอีกคนนึงของวงการยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา

    อิตาลี ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากผู้ร่วมสมัยว่าเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษส่งผล

    ต่อเส้นทางสายอาชีพของเขาเช่นกัน


 - วิหารเซนต์ปอลในลอนดอนเป็นจุดเด่นของชื่อเสียงของคริสโตเฟอร์ เรน มาโดยตลอด ความสัมพันธ์

    ของเขากับมันครอบคลุมอาชีพสถาปัตยกรรมทั้งหมดของเขา


17. คริสโตเฟอร์ เรน เสียชีวิต วันที่ 8 มีนาคม 1723 ในวัย 90 ปี  ร่างของเขาถูกฝังไว้ที่มุมตะวันออกเฉียงใต้

ของห้องใต้ดินของโบสถ์เซนต์พอล มีอนุสรณ์ถึงเขาในห้องใต้ดินที่มหาวิหารเซนต์ปอล





วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

Gian Lorenzo Bernini จิอัน โลเรนโซ่ แบร์นินี่

 


Gian Lorenzo Bernini จิอัน โลเรนโซ่ แบร์นินี่

Gian Lorenzo Bernini จิอัน โลเรนโซ่ แบร์นินี่ 


Gian Lorenzo Bernini จิอัน โลเรนโซ่ แบร์นินี่


 - Gian Lorenzo Bernini จิอัน โลเรนโซ่ แบร์นินี่  (จิอัน)


 - หรือ Gianlorenzo / Giovanni Lorenzo จิโอวานนี่ โลเรนโซ่


 - เป็นประติมากรและสถาปนิกชาวอิตาลี ในขณะที่บุคคลสำคัญในโลกของสถาปัตยกรรม 


 - เขาเป็นประติมากรชั้นนำในยุคของเขา โดดเด่นในยุคของตน


 - เกิด : 7 ธันวาคม 1598 เนเปิลส์ ราชอาณาจักรเนเปิลส์ ในยุคที่ยังแยกเป็นหลายแคว้น  

    ราชอาณาจักรเนเปิลส์เป็นอาณาจักรทางตอนใต้ของคาบสมุทรอิตาลี 


 - ได้รับชื่อเสียงในฐานะ การสร้างประติมากรรมสไตล์บาโรกเป็นประติมากรรมที่เกี่ยวข้องกับสไตล์บาโรก

    ในช่วงระหว่างต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18


 - ดังที่มีคนเปรียบว่า เชคสเปียร์ ยอดเยี่ยมในวรรณกรรม อย่างไร แบร์นินี่ ก็ยอดเยี่มในสถาปัตยกรรม

    แบบนั้น


 - ประติมากรชาวยุโรปคนแรกที่มีชื่อที่สามารถระบุได้ทันทีด้วยลักษณะเฉพาะและวิสัยทัศน์ และมีอิทธิพล

    อย่างเหลือล้นต่อ ประติมากรรุ่นหลัง


 - เขาเป็นจิตรกร (ส่วนใหญ่เป็นภาพเขียนสีน้ำมันขนาดเล็ก) และเป็นคนของโรงละคร เขาเขียนบท กำกับ

    และแสดงในละคร (ส่วนใหญ่เป็นงานเสียดสีคาร์นิวัล) ซึ่งเขาได้ออกแบบชุดเวทีและเครื่องจักรสำหรับ

    การแสดงละคร


 - เขาผลิตงานออกแบบสำหรับวัตถุศิลปะการตกแต่งที่หลากหลาย เช่น โคมไฟ โต๊ะ กระจก และแม้แต่

    ตู้โดยสาร


 - ในฐานะสถาปนิกและนักวางผังเมือง เขาได้ออกแบบอาคาร โบสถ์ ห้องสวดมนต์ และจัตุรัสสาธารณะ

    รวมถึงงานขนาดใหญ่ที่ผสมผสานทั้งสถาปัตยกรรมและประติมากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำพุสาธารณะ

    ที่ซับซ้อน และอนุสาวรีย์ อนุสรณ์งานศพ และโครงสร้างชั่วคราวทั้งชุด (ปูนปั้นและไม้ ) สำหรับงานศพ

    และงานรื่นเริง


 - ความเก่งกาจทางเทคนิคที่กว้างขวางไร้ขอบเขตของเขา ความคิดสร้างสรรค์เชิงองค์ประกอบที่ไร้ขอบเขต 

    และทักษะอันเฉียบขาดในการจัดการกับหินอ่อนทำให้มั่นใจได้ว่าเขาจะได้รับการพิจารณาว่าเป็น

    ผู้สืบทอดตำแหน่งที่คู่ควรกับไมเคิลแองเจโล ซึ่งเหนือกว่าประติมากรคนอื่นๆ ในรุ่นของเขา


 - พรสวรรค์ของเขาขยายออกไปนอกขอบเขตของประติมากรรม จิตรกรรม และสถาปัตยกรรมให้เป็น

    แนวคิดและทัศนศิลป์ที่สอดคล้องกันทั้งหมดเรียกว่า "เอกภาพแห่งทัศนศิลป์"


 - รายการผลงานประติมากรรม สถาปัตยกรรม และจิตรกรรมของศิลปินสไตล์บาโรกชาวอิตาลี 

    จิอัน โลเรนโซ่ แบร์นินี่  มีมากมาย เช่น 


- The Goat Amalthea with the Infant Jupiter and a Faun รูปปั้นแสดงแอมัลเธีย (แม่บุญธรรมของ 

            ซุส )เป็นแพะ จูปิเตอร์วัยทารก และฟอนทารกสัตว์ในเทพปกรณัมโรมัน  ท่อนบนจากศีรษะลงไป

            ถึงเอวเป็นมนุษย์แต่มีเขาและหูของแพะ


- Bust of Giovanni Battista Santoni รูปปั้นครึ่งตัวทำด้วยหินอ่อนขนาดเท่าตัวจริง 


- Bust of Pope Paul V 


- Ecstasy of Saint Teresa (ความปีติยินดีของนักบุญเทเรซ่า) ประติมากรรมหินอ่อนสีขาวที่ตั้งอยู่ใน

            ภาพวาดบนเพดานสูงในโบสถ์ซานตา มาเรีย เดลลา วิตตอเรีย ในกรุงโรม

- Truth Unveiled by Time ประติมากรรมหินอ่อน


- Memorial to Maria Raggi อนุสาวรีย์นี้ติดอยู่กับเสาในโบสถ์ของโบสถ์ซานตา มาเรีย โซปรา 

            มิเนอร์วา ในกรุงโรม เป็นแม่ชีจากเกาะ Chios (เกาะไคออส) เธอถูกบังคับให้แต่งงานตั้งแต่อายุ

            ยังน้อย เธอเป็นหม้ายเมื่อสามีของเธอถูกจับ กลายเป็นแม่ชีในปีเป็นผู้หญิงที่เคร่งศาสนามาก 

            เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสวดมนต์



และอื่นๆอีกมากมาย สามารถค้นหาได้จาก คำคีย์เวิร์ด ว่า List of works by Gian Lorenzo Bernini


 - จิอัน โลเรนโซ่ แบร์นินี่ ถูกยกให้เป็น ผู้สนับสนุนในฐานะผู้ยิ่งใหญ่ของศิลปะบาโรก


 - ศิลปะแบบบาโรกของเขาได้รับการบูรณะให้เป็นที่โปรดปรานทั้งในเชิงวิจารณ์และเป็นที่นิยมในศตวรรษที่ 21


 - จิอัน โลเรนโซ่ แบร์นินี่ เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมอง วันที่ 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1680 ด้วยวัย 81 ปี

     โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น จักรพรรดิแห่งศิลปะ




วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

เออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) จิ้งจอกทะเลทราย ชาวเยอรมัน

 


เออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) จิ้งจอกทะเลทราย ชาวเยอรมัน

เออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) จิ้งจอกทะเลทราย

เออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) จิ้งจอกทะเลทราย ชาวเยอรมัน


 - โยฮันเนส เออร์วิน ออยเกน รอมเมล


 - Johannes Erwin Eugen Rommel


 - จิ้งจอกทะเลทราย


 - เป็นจอมพลชาวเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง


 - จอมพลอยู่ใน Wehrmacht (กองกำลังติดอาวุธ) ของนาซีเยอรมนี


 - อยู่ในReichswehr ของสาธารณรัฐไวมาร์ และกองทัพของจักรวรรดิ เยอรมนี


 - เขาเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสงครามโลกครั้งที่ 1 และได้รับรางวัล Pour le Mérite จากการกระทำของ

    เขาในแนวรบอิตาลี ในปี 1937 


 - ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับยุทธวิธีทางทหาร Infantry Attacks โดยรวบรวมประสบการณ์ของเขาในสงคราม

    ครั้งนั้น


 - บัญชาการกองยานเกราะที่ 7 ระหว่างการรุกรานฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2


 - เป็นผู้นำของกองทัพเยอรมันและอิตาลีในสมรภูมิในแอฟริกาเหนือ


 - สมรภูมิในแอฟริกาเหนือได้สร้างชื่อเสียงให้กับเขาในฐานะหนึ่งในผู้บัญชาการรถถังที่เก่งกาจที่สุด

    ในสงคราม และทำให้เขาได้รับสมญานามว่า der Wüstenfuchs หรือ "จิ้งจอกทะเลทราย"


 - เขามีชื่อเสียงในด้านความกล้าหาญ และวลี "สงครามโดยปราศจากความเกลียดชัง" เพื่อใช้บรรยาย

    การสู้รบในเขตแอฟริกาเหนือ


 - บัญชาการกองกำลังเยอรมันเพื่อต่อต้านการรุกรานนอร์มังดีข้ามช่องทางของฝ่ายสัมพันธมิตร


 - เขาเป็นผู้สนับสนุนอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อย่างน้อยก็จนกระทั่งใกล้สิ้นสุดสงคราม


 - รอมเมลมีชื่อเสียงของเขาฐานะวีรบุรุษของชาติ


 - รอมเมลเป็นบุคคลสำคัญทั้งในโฆษณาชวนเชื่อของฝ่ายสัมพันธมิตรและนาซี


 - พ่อของรอมเมลเป็นครู : แม่ของเขาเป็นลูกสาวของเจ้าหน้าที่ระดับสูง


 - ในสงครามโลกครั้งที่ 1 : ต่อสู้ในฐานะพลโทในฝรั่งเศส โรมาเนีย และอิตาลี


 - อยู่ในกองทหารราบในฐานะเจ้าหน้าที่แนวหน้า มีพรสวรรค์ที่เด่นชัดในการสอนและได้รับการแต่งตั้ง

    ให้ดำรงตำแหน่งในโรงเรียนทหารต่างๆ


 - ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการโรงเรียนนายทหารในเมืองวีเนอร์ นอยสตัดท์ ใกล้กรุงเวียนนา 

    หลังจากได้ผนวกออสเตรียแล้ว


 - ช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการกองทหารรักษาการณ์

    กองบัญชาการของ Führer และกลายเป็นคนสนิทของ ฮิตเลอร์


 - รอมเมลได้รับความนิยมอย่างมากในโลกอาหรับ ซึ่งเขาได้รับการยกย่องว่าเป็น "ผู้ปลดปล่อย" 

    จากการปกครองของอังกฤษ


 - เขาถูกสงสัยว่าเป็นคนที่มีส่วนร่วมในแผนลับ 20 กรกฎาคม เป็นความพยายามลอบสังหารอดอล์ฟ 

    ฮิตเลอร์ และล้วมเหลวในการสังหารซึ่งไม่รู้ว่าเขาได้มีส่วนจริงๆหรือไม่ แต่เขาได้รับทางเลือกไม่มากนัก

    อย่าง ไปแก้ต่างกับฮิตเลอร์ / ขึ้นศาลและประหารชีวิต / ปลิดชีพตน และยังคงซึ่งเกียรติยศตำแหน่งต่าง

    และความปลอดภัยของครอบครัว รัฐบาลจะอ้างว่าเขาเสียชีวิตอย่างวีรบุรุษและฝังศพเขาด้วยเกียรติยศ

    ทางการทหาร และครอบครัวของเขาจะได้รับเงินบำนาญเต็มจำนวน


 - เขาฆ่าตัวตายโดยการกัดแคปซูลไซยาไนด์ ที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1944 (52 ปี) แฮร์ลิงเงิน นาซีเยอรมนี

     Herrlingen, Gau Württemberg-Hohenzollern, Nazi Germany


 - สุสานของ Erwin Rommel ใน Herrlingen ภายหลังได้ถูกประกาศอย่างเป็นทางการ ต่อสาธารณะระบุว่า

    เขาเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายหรือเส้นเลือดในสมองอุดตัน ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนของการแตกหัก

    ของกะโหลกศีรษะที่เขาได้รับจากการกราดยิงใส่รถเจ้าหน้าที่ของเขาก่อนหน้านี้



สมรภูมิที่สำคัญ ของ รอมเมล


 - 1917 สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง : ได้รับชัยชนะต่อสู้ในฝรั่งเศส เช่นเดียวกับในโรมาเนียละการรบในอิตาลี


 - 1939 สงครามโลกครั้งที่สอง : ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการกองพัน Führerbegleitbatallion 

    ได้รับมอบหมายให้อารักขาฮิตเลอร์และกองบัญชาการภาคสนามของเขาระหว่างการรุกรานโปแลนด์


 - 1940 ฝรั่งเศส สงครามโลกครั้งที่สอง : เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองยานเกราะ รุกราน

เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และฝรั่งเศส 


 - 1941–1943 แอฟริกาเหนือ : ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการของ กองทัพน้อยแอฟริกา ในส่วนของ

ทัพแอฟริกาเหนือในสงครามโลกครั้งที่สอง  ความสำเร็จในสมรภูมิทะเลทรายตะวันตกทำให้รอมเมล

ได้รับฉายาว่า "จิ้งจอกทะเลทราย" จากนักข่าวทั้งสองด้านของสงคราม


 - 1943 อิตาลี : รอมเมลถูกย้ายไปกรีซในตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพกลุ่ม E เพื่อตอบโต้การรุกราน

ของอังกฤษที่อาจเกิดขึ้น 


 - Atlantic Wall 1944 : รับตำแหน่งผู้ตรวจการทั่วไปของการป้องกันภาคตะวันตก มีอำนาจในการเดินทาง

ตรวจสอบและให้คำแนะนำในการปรับปรุงการป้องกันซึ่งสามารถใช้ตอบโต้การโจมตีโอบล้อมกองกำลัง

พันธมิตร




วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

กุบไล ข่าน Kublai Khan ผู้ยิ่งใหญ่เหนือแดนจีน

 


กุบไล ข่าน Kublai Khan ผู้ยิ่งใหญ่เหนือแดนจีน

กุบไล ข่าน Kublai Khan ผู้ยิ่งใหญ่เหนือแดนจีน

กุบไล ข่าน Kublai Khan ผู้ยิ่งใหญ่เหนือแดนจีน


 - กุบไล ข่าน : หยวนชื่อจู่ หรือ ซีโจ๊วฮ่องเต้  Emperor Shizu of Yuan บุคคลสำคัญของจีน


 - ชื่อราชวงศ์ คือ Setsen Khan


 - เป็นผู้ก่อตั้งราชวงศ์หยวนของจีนและจักรพรรดิ์ข่านองค์ที่ห้าของอาณาจักรมองโกล เป็นพระราช

    นัดดา เจงกิส ข่าน  


 - เกิด 23 กันยายน ค.ศ. 1215


 - เสียชีวิต 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1294 (อายุ 78 ปี)


 - เผ่าบอร์ไจกิ้น : Borjigin เป็นสมาชิกของกลุ่มย่อยมองโกลของ ตระกูล Kiyat 


 - ราชวงศ์หยวน


 - พระบิดา : โทลุย ( โทโลย ข่าน ) ผู้สำเร็จราชการแห่งจักรวรรดิมองโกล เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่

    สี่ของเจงกิส ข่าน กับบอร์เต


 - พระมารดา : ซอร์กากตานิ เบกิ (เจ้าหญิงเคไรต์) เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลและมีอำนาจมากที่สุด

    ในประวัติศาสตร์ ของมองโกล 


 - จักรพรรดินี : พระนางฉาปี้ (察必) Empress Chabi  / จักรพรรดินีน้ำบุย Empress Nambui -- แต่งหลังจาก

     พระนางฉาปี้สวรรตด


 - ชายา : เตกูลัน Tegulen Khatun


 - พระราชบุตร ( อาแค่บุตรชายนะ ไม่งั้นเยอะอะ )


-  1. องศ์ชายดอร์จี -  Dorji ลูกคนแรกเกิดจากเตกูลัน ผู้บัญชาการสำนักเลขาธิการและผู้บัญชาการ

            การทหาร จากปี ค.ศ. 1261 แต่ป่วยและเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย 30 ปี


- 2. มกุฏราชกุมารเจินจิน - Zhenjin เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุราเรื้อรังเมื่อวันที่ 5 มกราคม 1286 แปดปี

            ก่อนที่กุบไลข่าน จะสวรรคต ทำให้ลูกชายของเขาหรือหลานของกุบไลข่าน ขึ้นเป็นจักรพรรดิแทน


- 3. องศ์ชายแมงกาลา - Manggala เจ้าชายแห่งอันซี (安西王) และเจ้าชายแห่งฉิน (秦王) ได้รับ    

            มรดกเป็นเขตแดนมากมายอย่าง อาณาจักรตังกุต เสฉวน และส่วนหนึ่งของทิเบต


- 4. องศ์ชายนมูคัน - Nomughan เจ้าชายแห่งเป่ยจิง หรือปักกิ่ง


- 5. องศ์ชายโตกอน - Toghon จ้าชายแห่ง เจิ้นหนาน ผู้โจมตีได๋เวียด หรือเวียดนามในปัจจุบัน และ

            พ่ายแพ้จนไม่สามารถเข้าพบกุบไลข่านได้อีก จึงถูกย้ายไปที่ ยางโจวในปี 1291 ซึ่งเขาเสียชีวิต

            ในอีก 10 ปีต่อมา



 - หลังจากการแบ่งแยกของจักรวรรดิแล้ว เขาประกาศชื่อราชวงศ์ของจักรวรรดิว่า "หยวนผู้ยิ่งใหญ่"


 - เขาสืบทอดตำแหน่งต่อจาก มงค์ ข่าน ( Möngke ) พี่ชายของเขาในฐานะข่าน ในปี 1260 แต่ต้อง

    เอาชนะ บะเราะกะฮฺ ข่าน (Ariq Böke) น้องชายของเขาในสงครามกลางเมือง Toluid ซึ่งดำเนินไปจนถึง

    ปี 1264 จนสามารถขึ้นตำแหน่งได้อย่างมั่นคง และเหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของการแยกตัวของ

    จักรวรรดิ


 - อำนาจที่แท้จริงของกุบไลจำกัดอยู่ที่จักรวรรดิหยวน และญาติอื่นๆก็มีอำนาจที่ต่างออกไปในอาณาจักร

    มองโกลที่เคยเป็นแผ่นเดียวกันมาก่อน และนับถือศาสนาต่างกัน


 - จักรวรรดิมองโกลในเวลานั้น  อาณาจักรของเขาแผ่ขยายตั้งแต่มหาสมุทรแปซิฟิกไปจนถึงทะเลดำ 

    จากไซบีเรียจนถึงอัฟกานิสถานในปัจจุบัน


 - ในปี ค.ศ. 1271 กุบไลได้ก่อตั้งราชวงศ์หยวนและอ้างสิทธิ์อย่างเป็นทางการในการสืบราชสันตติวงศ์

    ดั้งเดิมจากราชวงศ์จีนก่อนหน้า ได้โค่นอำนาจราชวงศ์ซ่งลงเปิดศักราชชาวมองโกลครองประเทศจีน


 - ราชวงศ์หยวนเข้ามาปกครองจีนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน มองโกเลีย เกาหลี ไซบีเรียตอนใต้ และพื้นที่

    ใกล้เคียงอื่นๆ นอกจากนี้เขายังสะสมอิทธิพลในตะวันออกกลางและยุโรปในฐานะ จักรพรรดิและ

    ผู้ที่ปกครอง


 - การพิชิตราชวงศ์ซ่งของหยวนเสร็จสมบูรณ์และกุบไล ข่าน กลายเป็นจักรพรรดิที่ไม่ใช่ชาวฮั่นพระองค์

    แรกที่ปกครองประเทศจีนทั้งหมด แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด


 - ในยุคสมัยของกุบไล ข่าน มีนักเดินทางสำรวจชาวตะวันตกมากมายเดินทางมาถึงดินแดนของราชวงศ์

    หยวนของกุบไล ข่าน นักเดินทางที่มีชื่อเสียงคนนึงมีชื่อว่า มาร์โค โปโล


 - ในยุคสมัยของกุบไล ข่าน นั้นมีความพยายามจะเข้าตี  ญี่ปุ่น พม่า( ได้มาบางส่วน ) แถบล้านนาของไทย

 ( ได๋เวียดและจามปา) เวียดนาม และ ชวา (อินโดนีเซีย) แต่ไม่ประสบความสำเร็จ