พระเจ้าฟ้ารั่ว Wareru
พระเจ้าวาริหู หรือ พระเจ้าฟ้ารั่ว 20 มีนาคม ค.ศ. 1253 – ประมาณ 14 มกราคม ค.ศ. 1307
เป็นปฐมกษัตริย์ในเมืองเมาะตะมะ เป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรเมาตะบัน ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเมียนมาร์
(พม่า) ในปัจจุบันประสบความสำเร็จในการสร้างระบบการปกครองที่พูดภาษามอญในพม่าตอนล่าง
ในช่วงการล่มสลายของจักรวรรดิพุกามในทศวรรษที่ 1280
เป็นสามัญชนได้ยึดตำแหน่งผู้ว่าการเมาตะบัน (โมตมะ) ในปี พ.ศ. 1285
หลังจากได้รับการสนับสนุนจากอาณาจักรสุโขทัยแล้ว เขาก็ประกาศเอกราชจากพุกามในปี พ.ศ. 1287
เขาและพระเจ้าตราพระยาแห่งหงสาวดีซึ่งเป็นพันธมิตรของเขาเอง - ได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์
แห่งเปกู (พะโค) เอาชนะการรุกรานครั้งใหญ่ของพุกามอย่างเด็ดขาดในปี พ.ศ. 1295–1296
หลังจากนั้นไม่นาน พระเจ้าฟ้ารั่ว ก็กำจัดพระเจ้าตราพระยาแห่งหงสาวดี และขึ้นเป็นผู้ปกครองแต่เพียง
ผู้เดียวในสามจังหวัดที่พูดภาษามอญ ได้แก่ พะสิม พะโค และเมาะตะมะ
มรดกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระเจ้าฟ้ารั่ว คือการก่อตั้งกลุ่มการเมืองที่พูดภาษามอญเพียงกลุ่มเดียว
ที่ยังคงหลงเหลืออยู่หลังทศวรรษที่ 1290ช่วยส่งเสริมให้ชาวมอญกลายเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่เชื่อมโยง
กันในศตวรรษที่ 14 และ 15
พระธรรมศาสตร์ฉบับพระเจ้าฟ้ารั่ว เป็นหนึ่งในพระธรรมศาสตร์ (ตำรากฎหมาย) ที่เก่าแก่ที่สุด
ที่ยังหลงเหลืออยู่ของเมียนมาร์ และมีอิทธิพลอย่างมากต่อประมวลกฎหมาย
ของประเทศพม่าและสยามจนถึงศตวรรษที่ 19 เป็นคัมภีร์พระธรรมศาสตร์ของ มอญ เรียกว่า
พระธรรมศาสตร์พระเจ้าฟ้ารั่ว
ส่งคณะทูตไปยังหยวนจีนเพื่อรับการยอมรับโดยตรงจากจักรพรรดิมองโกล นี่เป็นการแสดงท่าทาง
ที่กล้าหาญซึ่งตอนนั้นพระเจ้าฟ้ารั่วอยู่ใต้อิทธิพลของพ่อขุนรามคำแหง ต่ทางหยวนก็ยังยอมรับ
ในฟ้ารั่วอยู่ดีเพราะไม่ต้องหารให้อาณาจักรทางใต้ของพวกชาวไทนั้นมีพวกที่เข้มแข็งขึ้นมาอีก
เสมือนการรับไว้คานอำนาจกัน
หลังจากได้รับการยอมรับจากมองโกล พระเจ้าฟ้ารั่ว ก็ขึ้นครองราชย์ต่อไปอีก 8 ปีครึ่ง
จากนั้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 1307 กษัตริย์ก็ถูกลอบปลงพระชนม์โดยราชโอรสทั้งสองของพระองค์
คือ โอรสทั้งสองของพระเจ้าตะยาพยาแห่งกรุงหงสาวดี
แม้ว่าเขาจะเลี้ยงดูพวกเขามา แต่พวกเด็กๆ ก็ไม่พอใจปู่ของพวกเขาสำหรับการตายของพ่อ
เนื่องจากพระเจ้าฟ้ารั่วสวรรคต ตอนนั้นมีพระชนมายุเพียง 53 พรรษาเท่านั้นโดยไร้รัชทายาททำให้
มะกะตาพระอนุชาได้ขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อมาเป็นพระเจ้ารามประเดิด
มรดกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระเจ้าฟ้ารั่วคือการสถาปนาอาณาจักรที่พูดภาษามอญ ซึ่งช่วยให้สามารถ
อนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมมอญได้
กรุงหงสาวดีก็กลายเป็นระบอบการเมืองเดียวที่พูดภาษามอญที่ยังหลงเหลืออยู่ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ
1290 เป็นต้นไป อาณาจักรมอญเก่าแก่อย่างทวารวดีและหริปุญชัย (ในประเทศไทยปัจจุบัน)
ได้รวมเข้าเป็นรัฐใต้อย่างสุโขทัยและล้านนาในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13
อาณาจักรของพระเจ้าฟ้ารั่วไม่เพียงแต่จะอยู่รอดเท่านั้น แต่ยังเจริญรุ่งเรืองจนกลายเป็นรัฐที่ร่ำรวย
ขึ้นอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น