หน้าเว็บ

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เยอรมัน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เยอรมัน แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ก็อทลีพ ไดม์เลอร์ บิดาแห่งรถมอเตอร์ไซค์คันแรกของโลก (Gottlieb Wilhelm Daimler)

 


ก็อทลีพ ไดม์เลอร์  บิดาแห่งรถมอเตอร์ไซค์คันแรกของโลก (Gottlieb Wilhelm Daimler)


เป็นวิศวกร นักออกแบบอุตสาหกรรม และนักอุตสาหกรรมชาวเยอรมันซึ่งเกิดในชอร์นดอร์ฟ 


(ราชอาณาจักรเวือร์ทเทมแบร์ก ซึ่งเป็นรัฐสหพันธ์ของสมาพันธรัฐเยอรมัน)


 ก็อทลีพ ไดม์เลอร์ จดสิทธิบัตร รถจักรยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน คันแรกของโลก


17 มีนาคม พ.ศ. 2377 - 6 มีนาคม พ.ศ. 2443


เป็นนักประดิษฐ์ ผู้ประกอบการ และหนึ่งในผู้ประดิษฐ์รถยนต์ชาวเยอรมัน ในปี พ.ศ. 2428 


เขาได้ออกแบบเครื่องยนต์สันดาปภายในและสร้างรถจักรยานยนต์เดมเลอร์


พัฒนารถยนต์ และร่วมกับวิลเฮ็ล์ม ไมบัค ผลิตรถจักรยานยนต์เป็นครั้งแรก


ร่วมกันก่อตั้งบริษัทเดมเลอร์มอเตอร์ต่อมารวมตัวกับบริษัทของคาร์ล เบ็นทซ์ กลายเป็นไดม์เลอร์-เบนซ์


ผู้ผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ 


ส่งเสริมการพัฒนาแหล่งน้ำมันในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา


จดสิทธิบัตรเครื่องยนต์เบนซินสำหรับรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของเครื่องยนต์สันดาปภายในสมัยใหม่


เป็นรถจักรยานยนต์คันแรกของโลก 


ก็อทลีพ ไดม์เลอร์ Gottlieb Daimler ได้รับเลือกเข้าสู่หอเกียรติยศยานยนต์


มีสนามกีฬาที่ตั้งชื่อตามเขาในเมืองสตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมนี


ได้รับการยกย่องว่าเป็น "บิดาแห่งรถจักรยานยนต์"


ลิ้งที่เกี่ยวข้อง น่าสนใจ

✅ Money Mastery มั่งคั่งทั้งชีวิต

✅ บุคคลสำคัญของจีน

✅ 50 บุคคลผู้เปลี่ยนแปลงโลก

✅ เออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) จิ้งจอกทะเลทราย ชาวเยอรมัน

✅ เซเปียนส์ ประวัติย่อมมนุษยชาติ : Sapiens A Brief History of Humankind










วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

อ็อทโทที่ 1 มหาราช Otto the Great (ออตโต)

 


อ็อทโทที่ 1 มหาราช Otto the Great (ออตโต)


ออตโตที่ 1 มหาราช  23 พฤศจิกายน ค.ศ. 912 - 7 พฤษภาคม 973 ในเมมเลเบิน Memleben


จากตระกูลลิอูดอลฟิงเงอร์ (Liudolfinger) คือดยุกแห่งแซกโซนีและกษัตริย์แห่งจักรวรรดิแฟรงก์

ตะวันออกทรงเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 962 จนเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 973

ทรงเป็นพระราชโอรส องค์ใหญ่ในพระเจ้าไฮน์ริชที่ 1กับพระนางมาทิลเดอแห่งริงเงิลไฮม์ (Matilda of Ringelheim.)


    ออตโตได้รับมรดกดัชชีแห่งแซกโซนีและความเป็นกษัตริย์ของชาวเยอรมันหลังจากที่บิดาของเขา

เสียชีวิตในปี 936เขายังคงทำงานของบิดาในการรวมชนเผ่าเยอรมันทั้งหมดให้เป็นอาณาจักรเดียว

ขยายอำนาจของกษัตริย์ออกไปเป็นอย่างมาก  ออตโตได้แต่งตั้งสมาชิกในครอบครัวของเขาในดัชชี

ที่สำคัญที่สุดของราชอาณาจักร ส่งผลให้ดยุคต่างๆ ที่เคยเท่าเทียมกับกษัตริย์มาก่อน กลายเป็น

ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาในอำนาจของพระองค์

ดัชชี duchy * อาณาเขตการปกครองหรือบริเวณที่ปกครองโดยดยุกหรือดัชเชส



ในปี ค.ศ. 946 พระองค์ทรงนำกองทัพเข้าแทรกแซงสงครามกลางเมืองฝรั่งเศส

ออตโตเปลี่ยนแปลงคริสตจักรในเยอรมนีเพื่อเสริมสร้างอำนาจของกษัตริย์และมอบอำนาจให้

นักบวชอยู่ภายใต้การควบคุมส่วนตัวของเขา


ออตโตที่ 1 เป็นหนึ่งในพระมหากษัตริย์กลุ่มแรกที่บุกครองชาวสลาฟ พระองค์ทรงบังคับ

โบเลสลาฟที่ 1 ดยุคแห่งโบฮีเมียให้ยอมจำนน


บุกอิตาลีเป็นครั้งแรก ยึดครองแคว้นลอมบาร์ดี ประกาศตนเป็นกษัตริย์แห่งอิตาลี และแต่งงาน

กับเอเดอเลเด ภรรยาม่ายของโลแธร์ ผู้ปกครองชาวอิตาลี


หลังจากยุติสงครามกลางเมืองในช่วงสั้นๆ ในหมู่ดัชชีที่กบฏ ออตโตเอาชนะพวกแมกยาร์ในยุทธการ

เลชเฟลด์ (Battle of Lechfeld) ในปี ค.ศ. 955


ยุติการรุกรานของฮังการีในยุโรปตะวันตก ยังรวมถึงการกบฏของผู้ยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิต่อกษัตริย์ด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้รับชัยชนะเหนือชาวสลาฟในปีเดียวกัน 


เอาชนะกษัตริย์บลูทูธ ฮารัลด์แห่งเดนมาร์กทางตอนเหนือ และบังคับให้เขาเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์


ชัยชนะเหนือพวกนอกรีต Magyars ทำให้ Otto ได้รับชื่อเสียงในฐานะผู้กอบกู้คริสต์ศาสนจักร

และยึดอำนาจเหนืออาณาจักรไว้


ในปี ค.ศ. 961 ออตโตได้พิชิตอาณาจักรอิตาลี ตามตัวอย่างพิธีราชาภิเษกของชาร์เลอมาญ

ในฐานะ "จักรพรรดิแห่งชาวโรมัน"ที่เคยเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 800 

ออตโตได้รับการสวมมงกุฎจักรพรรดิแบบเดียวกันในปี ค.ศ. 962 โดยสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 12 

ในกรุงโรม 


ตั้งแต่ปี 966 ถึง 972 ออตโตที่ 1 กำลังทำสงครามกับจักรวรรดิไบแซนไทน์เหนืออิตาลี และต้องจำยอม

 ยอมรับในตำแหน่งจักรพรรดิของพระองค์อย่างเป็นทางการ ทั้งยังยกเธโอฟาโน (Theophanu) 

เจ้าหญิงบาเซนไทน์ให้เป็นเจ้าสาวของของพระองค์ 


ออตโตมีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์ยุโรปยุคกลาง  บุคคลสำคัญ ทรงเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุโรป 

ผลที่ตามมาคือความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมเริ่มต้นขึ้นซึ่งกลายเป็นที่รู้จักในชื่อยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาออตโตเนียน


ออตโตอุปถัมภ์ศิลปะและการเรียนรู้ โดยช่วยสร้างโรงเรียนในอาสนวิหารหลายแห่งซึ่งพัฒนา

จนกลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา


ออตโตป่วยหนักเป็นไข้ และหลังจากได้รับศีลระลึกครั้งสุดท้ายก็สิ้นพระชนม์ในวันที่ 7 พฤษภาคม 

พ.ศ. 973 สิริอายุได้ 60 ปี


ออตโตที่ 2 ทรงจัดงานศพอันงดงามเป็นเวลา 30 วัน โดยที่พระราชบิดาของพระองค์ถูกฝังไว้ข้างๆ 

เอ็ดจิธ (Eadgyth) ภรรยาคนแรกของพระองค์ในอาสนวิหารมักเดบูร์ก  Magdeburg Cathedral

ออตโตที่ 1 สิ้นพระชนม์ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความเป็นกษัตริย์ที่ทรงพลังอย่างยิ่งในโลกยุคนั้น






วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

เออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) จิ้งจอกทะเลทราย ชาวเยอรมัน

 


เออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) จิ้งจอกทะเลทราย ชาวเยอรมัน

เออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) จิ้งจอกทะเลทราย

เออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) จิ้งจอกทะเลทราย ชาวเยอรมัน


 - โยฮันเนส เออร์วิน ออยเกน รอมเมล


 - Johannes Erwin Eugen Rommel


 - จิ้งจอกทะเลทราย


 - เป็นจอมพลชาวเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง


 - จอมพลอยู่ใน Wehrmacht (กองกำลังติดอาวุธ) ของนาซีเยอรมนี


 - อยู่ในReichswehr ของสาธารณรัฐไวมาร์ และกองทัพของจักรวรรดิ เยอรมนี


 - เขาเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสงครามโลกครั้งที่ 1 และได้รับรางวัล Pour le Mérite จากการกระทำของ

    เขาในแนวรบอิตาลี ในปี 1937 


 - ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับยุทธวิธีทางทหาร Infantry Attacks โดยรวบรวมประสบการณ์ของเขาในสงคราม

    ครั้งนั้น


 - บัญชาการกองยานเกราะที่ 7 ระหว่างการรุกรานฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2


 - เป็นผู้นำของกองทัพเยอรมันและอิตาลีในสมรภูมิในแอฟริกาเหนือ


 - สมรภูมิในแอฟริกาเหนือได้สร้างชื่อเสียงให้กับเขาในฐานะหนึ่งในผู้บัญชาการรถถังที่เก่งกาจที่สุด

    ในสงคราม และทำให้เขาได้รับสมญานามว่า der Wüstenfuchs หรือ "จิ้งจอกทะเลทราย"


 - เขามีชื่อเสียงในด้านความกล้าหาญ และวลี "สงครามโดยปราศจากความเกลียดชัง" เพื่อใช้บรรยาย

    การสู้รบในเขตแอฟริกาเหนือ


 - บัญชาการกองกำลังเยอรมันเพื่อต่อต้านการรุกรานนอร์มังดีข้ามช่องทางของฝ่ายสัมพันธมิตร


 - เขาเป็นผู้สนับสนุนอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อย่างน้อยก็จนกระทั่งใกล้สิ้นสุดสงคราม


 - รอมเมลมีชื่อเสียงของเขาฐานะวีรบุรุษของชาติ


 - รอมเมลเป็นบุคคลสำคัญทั้งในโฆษณาชวนเชื่อของฝ่ายสัมพันธมิตรและนาซี


 - พ่อของรอมเมลเป็นครู : แม่ของเขาเป็นลูกสาวของเจ้าหน้าที่ระดับสูง


 - ในสงครามโลกครั้งที่ 1 : ต่อสู้ในฐานะพลโทในฝรั่งเศส โรมาเนีย และอิตาลี


 - อยู่ในกองทหารราบในฐานะเจ้าหน้าที่แนวหน้า มีพรสวรรค์ที่เด่นชัดในการสอนและได้รับการแต่งตั้ง

    ให้ดำรงตำแหน่งในโรงเรียนทหารต่างๆ


 - ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการโรงเรียนนายทหารในเมืองวีเนอร์ นอยสตัดท์ ใกล้กรุงเวียนนา 

    หลังจากได้ผนวกออสเตรียแล้ว


 - ช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการกองทหารรักษาการณ์

    กองบัญชาการของ Führer และกลายเป็นคนสนิทของ ฮิตเลอร์


 - รอมเมลได้รับความนิยมอย่างมากในโลกอาหรับ ซึ่งเขาได้รับการยกย่องว่าเป็น "ผู้ปลดปล่อย" 

    จากการปกครองของอังกฤษ


 - เขาถูกสงสัยว่าเป็นคนที่มีส่วนร่วมในแผนลับ 20 กรกฎาคม เป็นความพยายามลอบสังหารอดอล์ฟ 

    ฮิตเลอร์ และล้วมเหลวในการสังหารซึ่งไม่รู้ว่าเขาได้มีส่วนจริงๆหรือไม่ แต่เขาได้รับทางเลือกไม่มากนัก

    อย่าง ไปแก้ต่างกับฮิตเลอร์ / ขึ้นศาลและประหารชีวิต / ปลิดชีพตน และยังคงซึ่งเกียรติยศตำแหน่งต่าง

    และความปลอดภัยของครอบครัว รัฐบาลจะอ้างว่าเขาเสียชีวิตอย่างวีรบุรุษและฝังศพเขาด้วยเกียรติยศ

    ทางการทหาร และครอบครัวของเขาจะได้รับเงินบำนาญเต็มจำนวน


 - เขาฆ่าตัวตายโดยการกัดแคปซูลไซยาไนด์ ที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1944 (52 ปี) แฮร์ลิงเงิน นาซีเยอรมนี

     Herrlingen, Gau Württemberg-Hohenzollern, Nazi Germany


 - สุสานของ Erwin Rommel ใน Herrlingen ภายหลังได้ถูกประกาศอย่างเป็นทางการ ต่อสาธารณะระบุว่า

    เขาเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายหรือเส้นเลือดในสมองอุดตัน ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนของการแตกหัก

    ของกะโหลกศีรษะที่เขาได้รับจากการกราดยิงใส่รถเจ้าหน้าที่ของเขาก่อนหน้านี้



สมรภูมิที่สำคัญ ของ รอมเมล


 - 1917 สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง : ได้รับชัยชนะต่อสู้ในฝรั่งเศส เช่นเดียวกับในโรมาเนียละการรบในอิตาลี


 - 1939 สงครามโลกครั้งที่สอง : ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการกองพัน Führerbegleitbatallion 

    ได้รับมอบหมายให้อารักขาฮิตเลอร์และกองบัญชาการภาคสนามของเขาระหว่างการรุกรานโปแลนด์


 - 1940 ฝรั่งเศส สงครามโลกครั้งที่สอง : เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองยานเกราะ รุกราน

เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และฝรั่งเศส 


 - 1941–1943 แอฟริกาเหนือ : ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการของ กองทัพน้อยแอฟริกา ในส่วนของ

ทัพแอฟริกาเหนือในสงครามโลกครั้งที่สอง  ความสำเร็จในสมรภูมิทะเลทรายตะวันตกทำให้รอมเมล

ได้รับฉายาว่า "จิ้งจอกทะเลทราย" จากนักข่าวทั้งสองด้านของสงคราม


 - 1943 อิตาลี : รอมเมลถูกย้ายไปกรีซในตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพกลุ่ม E เพื่อตอบโต้การรุกราน

ของอังกฤษที่อาจเกิดขึ้น 


 - Atlantic Wall 1944 : รับตำแหน่งผู้ตรวจการทั่วไปของการป้องกันภาคตะวันตก มีอำนาจในการเดินทาง

ตรวจสอบและให้คำแนะนำในการปรับปรุงการป้องกันซึ่งสามารถใช้ตอบโต้การโจมตีโอบล้อมกองกำลัง

พันธมิตร




วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ Adolf Hitler




อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ Adolf Hitler

อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เป็น นักการเมืองเยอรมนีสัญชาติออสเตรียโดยกำเนิด

อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ Adolf Hitler



- หัวหน้าพรรคแรงงานสังคมนิยมแห่งชาติเยอรมัน ( พรรคนาซี )


- ฟือแรร์แห่งเยอรมนี หมายถึง "ผู้นำ" หรือ "ผู้ชี้แนะ" ชื่อพิเศษที่มุขมนตรีเยอรมนี

  อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ใช้เรียกตนเองหลังจากรัฐบัญญัติการมอบอำนาจ เมื่อวันที่

   23 มีนาคม 1933


- ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ระหว่าง ค.ศ. 1933 ถึง 1945


- ทั่วโลกยกให้เขาเป็น จอมเผด็จการของนาซีเยอรมนี และ


- เป็นทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง


- ผู้นำในการต่อต้านยิว และ เข่นฆ่าขาวยิวนับล้าน


สมัยเขาเป็นทหารในสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้รับบำเน็จเป็น


- กางเขนเหล็กชั้นหนึ่ง Iron Cross First Class


- กางเขนเหล็กชั้นสอง Iron Cross Second Class


- เข็มบาดเจ็บ (Wound Badge)


อยู่ในกรมกองหนุนบาวาเรียที่ 16 ข่าวกรองไรช์ซเวร์


แต่หลังจากเขาเย้าครองอำนาจโดยเข้าร่วมพรรคกรรมกรเยอรมัน ซึ่งเป็นพรรค

ก่อนหน้าพรรคนาซี และได้เป็นหัวหน้าพรรคนาซีต่อมาได้เขาทำการก่อรัฐประหาร

กบฏโรงเบียร์ ในเมืองมิวนิก


* กบฏโรงเบียร์ เป็นความพยายามก่อการปฏิวัติอันล้มเหลวของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์

หัวหน้าพรรคนาซี เจ้ากรมพลาธิการ (Generalquartiermeister) อีริช ลูเดนดอฟฟ์

และหัวหน้าคัมพฟ์บุนด์คนอื่น ๆ ฮิตเลอร์ถูกจำคุกเป็นเวลา 1 ปี ก็ได้ถูกปล่อยตัว

ออกมา


- เขามีคำพูดที่โดนใจวาทะศิลป์ที่ยอกเยี่ยม แรงโน้มน้าวจิตใจคนทำให้เขามี

  เสน่ห์ดึงดูดโฆษณาชวนเชื่อ ได้เป็นอย่างดี


- หลังจากได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1933

  เขาเปลี่ยนสาธารณรัฐไวมาร์เป็นจักรวรรดิไรช์ที่สาม รัฐเผด็จการ

  พรรคการเมืองเดียว ภายใต้อุดมการณ์นาซี


- และเริ่มนำประเทศเข้าสู้สงคราม โดยทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในความแข็งแกร่ง

  และจะจัดระเบียบโลกใหม่ รวมถึงการรังเกียจชาวยิว


- โดยที่จะให้นาซีและเยอรมันเป็นผู้ครองยุโรป


- เขาทำให้โลกเข้าสู่สภาวะสงคราม ในที่สุดก็เกิดเป็นสงครามโลกครั้งที่ 2


- ช่วงแรกๆเขาสามารถทำสงครามได้ประสบผลสำเร็จในหลายๆสมรภูมิ แต่พอ

  อเมริกาเริ่มเข้าสู่สงคราม


- และนาซีเองไม่สามารถเจาะไข่แดงบนเกาะอังกฤษได้ แล้วยังไปเปิดแนวรบ

  ใหม่กับสหภาพโซเวียต ส่งผลให้เขาเสียเปรียบอย่างมาก

- เคยมีข่าวว่าอยุ่ในแผนลอบสังการโดยนายพล เยอรมัน 1 ในนั้นคือ รอมเมล คนสนิทอีกด้วย


- ปลายสงคราม เมื่อเข้าตาจนและสู้ไม่ได้ เขาได้ทำอัตวินิบาตกรรม

  (การฆ่าตัวตายนั่นเอง ) เมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1945


เยอรมันแพ้ สงครามและถูกแบ่งออกเป็น เยอรมันตะวันออก และเยอรมันตะวันตก

ด้วยกำแพงเบอร์ลิน