หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2567

พระเจ้าฟ้ารั่ว Wareru ผู้กอบกู้แห่งมอญ

 


พระเจ้าฟ้ารั่ว Wareru 


พระเจ้าวาริหู หรือ พระเจ้าฟ้ารั่ว 20 มีนาคม ค.ศ. 1253 – ประมาณ 14 มกราคม ค.ศ. 1307


พระเจ้าฟ้ารั่ว Wareru


เป็นปฐมกษัตริย์ในเมืองเมาะตะมะ เป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรเมาตะบัน ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเมียนมาร์ 

(พม่า) ในปัจจุบันประสบความสำเร็จในการสร้างระบบการปกครองที่พูดภาษามอญในพม่าตอนล่าง 

ในช่วงการล่มสลายของจักรวรรดิพุกามในทศวรรษที่ 1280


เป็นสามัญชนได้ยึดตำแหน่งผู้ว่าการเมาตะบัน (โมตมะ) ในปี พ.ศ. 1285


หลังจากได้รับการสนับสนุนจากอาณาจักรสุโขทัยแล้ว เขาก็ประกาศเอกราชจากพุกามในปี พ.ศ. 1287


เขาและพระเจ้าตราพระยาแห่งหงสาวดีซึ่งเป็นพันธมิตรของเขาเอง - ได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์

แห่งเปกู (พะโค) เอาชนะการรุกรานครั้งใหญ่ของพุกามอย่างเด็ดขาดในปี พ.ศ. 1295–1296 

หลังจากนั้นไม่นาน พระเจ้าฟ้ารั่ว ก็กำจัดพระเจ้าตราพระยาแห่งหงสาวดี และขึ้นเป็นผู้ปกครองแต่เพียง

ผู้เดียวในสามจังหวัดที่พูดภาษามอญ ได้แก่ พะสิม พะโค และเมาะตะมะ


มรดกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระเจ้าฟ้ารั่ว คือการก่อตั้งกลุ่มการเมืองที่พูดภาษามอญเพียงกลุ่มเดียว

ที่ยังคงหลงเหลืออยู่หลังทศวรรษที่ 1290ช่วยส่งเสริมให้ชาวมอญกลายเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่เชื่อมโยง

กันในศตวรรษที่ 14 และ 15


พระธรรมศาสตร์ฉบับพระเจ้าฟ้ารั่ว เป็นหนึ่งในพระธรรมศาสตร์ (ตำรากฎหมาย) ที่เก่าแก่ที่สุด

ที่ยังหลงเหลืออยู่ของเมียนมาร์ และมีอิทธิพลอย่างมากต่อประมวลกฎหมาย

ของประเทศพม่าและสยามจนถึงศตวรรษที่ 19 เป็นคัมภีร์พระธรรมศาสตร์ของ มอญ เรียกว่า

พระธรรมศาสตร์พระเจ้าฟ้ารั่ว


ส่งคณะทูตไปยังหยวนจีนเพื่อรับการยอมรับโดยตรงจากจักรพรรดิมองโกล นี่เป็นการแสดงท่าทาง

ที่กล้าหาญซึ่งตอนนั้นพระเจ้าฟ้ารั่วอยู่ใต้อิทธิพลของพ่อขุนรามคำแหง ต่ทางหยวนก็ยังยอมรับ

ในฟ้ารั่วอยู่ดีเพราะไม่ต้องหารให้อาณาจักรทางใต้ของพวกชาวไทนั้นมีพวกที่เข้มแข็งขึ้นมาอีก 

เสมือนการรับไว้คานอำนาจกัน 


หลังจากได้รับการยอมรับจากมองโกล พระเจ้าฟ้ารั่ว ก็ขึ้นครองราชย์ต่อไปอีก 8 ปีครึ่ง


จากนั้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 1307 กษัตริย์ก็ถูกลอบปลงพระชนม์โดยราชโอรสทั้งสองของพระองค์ 

คือ โอรสทั้งสองของพระเจ้าตะยาพยาแห่งกรุงหงสาวดี


แม้ว่าเขาจะเลี้ยงดูพวกเขามา แต่พวกเด็กๆ ก็ไม่พอใจปู่ของพวกเขาสำหรับการตายของพ่อ


เนื่องจากพระเจ้าฟ้ารั่วสวรรคต ตอนนั้นมีพระชนมายุเพียง 53 พรรษาเท่านั้นโดยไร้รัชทายาททำให้

มะกะตาพระอนุชาได้ขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อมาเป็นพระเจ้ารามประเดิด 


มรดกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระเจ้าฟ้ารั่วคือการสถาปนาอาณาจักรที่พูดภาษามอญ ซึ่งช่วยให้สามารถ

อนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมมอญได้


กรุงหงสาวดีก็กลายเป็นระบอบการเมืองเดียวที่พูดภาษามอญที่ยังหลงเหลืออยู่ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ

 1290 เป็นต้นไป อาณาจักรมอญเก่าแก่อย่างทวารวดีและหริปุญชัย (ในประเทศไทยปัจจุบัน) 

ได้รวมเข้าเป็นรัฐใต้อย่างสุโขทัยและล้านนาในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 

อาณาจักรของพระเจ้าฟ้ารั่วไม่เพียงแต่จะอยู่รอดเท่านั้น แต่ยังเจริญรุ่งเรืองจนกลายเป็นรัฐที่ร่ำรวย

ขึ้นอีกด้วย 





วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2567

บุคคลสำคัญของจีน China

 


บุคคลสำคัญของจีน


บุคคลสำคัญของจีน China  บุคคลสำคัญของจีน

แต่บางคนนั้นอาจจะถึงขั้นเป็น บุคคลสำคัญของโลก ชาวจีน

ที่สร้างคุณูปการ ไว้แก่โลกก็ว่าได้ 

ต้องแยกระหว่าง บุคคลำสำคัญของโลก ชาวจีน / และบุคคลสำคัญของจีน

แล้วแต่ท่านผู้อ่านจะพิจารณา เราเพียงแค่รวมเหล่าบรรดาบุคคลสำคัญที่เคยลงไว้เป็นชาวจีน 

ไม่ว่าจะเป็นของโลกชาวจีน หรือ ของจีนก็ลงไว้หมดในหน้านี้ 




1. ไซซี : มัจฉาจมวารี ได้รับยกย่องว่าเป็น 1 ใน 4 หญิงงามแห่งแผ่นดินจีน 


2. หวังเจาจวิน : ปักษีตกนภา 1 ใน4 หญิงงามแห่งแผ่นดินจีน ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก


3. กิมย้ง Jinyong : นักเขียนนิยายกำลังภายในชื่อดังของจีน 


4. โจวโหยวกวง : ผู้คิดค้นตัวอักษร พินอิน


5. ซูสีไทเฮา : ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแห่งต้าชิง ปกครองประเทศจีนช่วงราชวงศ์ชิง


6. โจวเอินไหล : นายกรัฐมนตรีคนแรกและรัฐบุรุษของจีน


7. ไช่หลุน : ผู้ประดิษฐ์กระดาษและผู้คิดค้นกระบวนการผลิตกระดาษสมัยใหม่


8. กุบไล ข่าน : ผู้ก่อตั้งราชวงศ์หยวนของจีนและจักรพรรดิ์ข่านองค์ที่ห้าของอาณาจักรมองโกล


9. อู๋ เฉิงเอิน : เป็นผู้แต่งเรื่อง Journey to the West ไซอิ๋ว เป็นนิยายคลาสสิกของจีน


10. จิ๋นซีฮ่องเต้ : เป็นจักรพรรดิองค์แรกของจีน


11. เจิ้ง เหอ : แม่ทัพนักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ของจีน


12. จักรพรรดิหย่งเล่อ : จักรพรรดิองค์ที่สามของราชวงศ์หมิงของจีน  โอรสผู้ก่อตั้งราชวงศ์หมิง


13. เซี่ยงอวี่ ฌ้อปาอ๋อง : ขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่ในยุคปลายราชวงศ์ฉิน 


14. ซือหม่าเฉียน : นักประวัติศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ ของจีน


15. หลี่ไป๋ : หนึ่งในกวีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง กวีที่สำคัญที่สุดของราชวงศ์ถังและในประวัติศาสตร์จีน


16. ตู้ ฝู่ : กวีประวัติศาสตร์ กวีปราชญ์ นักเขียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จีน


17. หลู่ปัน : เทพอารักษ์ประจำอาชีพช่างไม้ ช่างปูน การก่อสร้าง


18.  : 


19.  : 


20.  : 


21.  : 


22.  : 


23.  : 




วันอังคารที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2567

หลู่ปัน เทพแห่งช่างไม้จีน 鲁班 Lu Ban

 


หลู่ปัน เทพแห่งช่างไม้จีน 鲁班

หลู่ปัน เทพแห่งช่างไม้จีน


ผู้ก่อตั้งสถาปัตยกรรมและช่างไม้จีน  บุคคลสำคัญของจีน


เกิด 507 ปีก่อนคริสตกาล เป็นสถาปนิกหรือช่างไม้ระดับปรมาจารย์ วิศวกรโครงสร้าง 


และนักประดิษฐ์ชาวจีนในสมัยราชวงศ์โจว เขาได้รับการเคารพนับถือในฐานะเทพจีน 


เทพอารักษ์ประจำอาชีพช่างไม้ ช่างปูน การก่อสร้าง 


หลู่ปานเกิด ครอบครัวช่างไม้หรือช่างฝีมือ ของราชวงศ์โจว มีนามเดิมว่า “กงซูปัน” เป็นชาวรัฐหลู่


มีตำนานมากมายเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของเขาใน ก่อสร้างและงานไม้ในประเทศจีน


จึงถือเป็นบรรพบุรุษของช่างฝีมือในรุ่นต่อ ๆ ช่างฝีมือต่างก็คิดว่า หลู่ปัน เป็นครูของพวกเขาด้วย


หลู่ปัน ได้รับการเคารพนับถือในฐานะเทพเจ้าแห่งช่างไม้และช่างก่ออิฐ 


สิ่งประดิษฐ์ของ หลู่ปัน จำนวนมากเป็นตำนานและไม่มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่เป็นทางการ


ตำนานเล่าว่าเขาประดิษฐ์เครื่องร่อนซึ่งช่วยให้ผู้คนสามารถบินข้ามกำแพงเมืองในอากาศได้


ประดิษฐ์เลื่อยจีน น้ำพุหมึก ตะขอ ไม้บรรทัดโค้ง และบานประตูโบราณที่ใช้สำหรับตกแต่งและเคาะประตู


สร้างบันไดเมฆสูง บันไดเกาหยุน  นกไม้ อุปกรณ์ยกเพื่อช่วยในงานศพ รถม้าและรถม้าที่ทำจากไม้


ทำให้หลู่ปันได้รับการยกย่องว่าเป็นปรมาจารย์ช่างฝีมือ 


หลู่ปันมักถูกอ้างชื่อในการสร้างปละประดิษฐ์ต่างๆ มากมาย แต่ก็ไม่สามารถหาหลักฐานได้ชัด


บางสิ่งก่อสร้างนั้นจากข้อมูลแล้วเป็นการสร้างในยุคหลังและโดยช่างท่านอื่น แต่ก็มักถูกอ้างอิงว่า


เป็นฝีมือหลู่ปัน เช่นกัน เท่าที่ทำความเข้าใจนั้น หลู่ปัน น่าจะถูกจดจำในฐานะตำนานโบราณ เทพเจ้า 


ที่ใช้กราบไหว้ เคารพบูชา เสียมากกว่างานที่เป็นจริง แต่อย่างไรก็ตามอาจจะมีอุปกรณ์งานไม้


บางอย่าง หรือบันได บันไดล้อมแบบถ่วงน้ำหนักเคลื่อนที่ได้ ที่ใช้ปีนกำแพงเมืองรวมถึงตะขอเหล็ก


เกี่ยวที่ใช้ในการสงครามทางเรือ หรือเลื่อย ที่อาจจะเป็นไปได้ที่หลู่ปันเป็นคนสร้าง แต่เรื่องหลายอย่าง


ค่อนข้างเป็นตำนานเยอะเหมือนกัน


แต่ตัวตนจริงนั่นอาจจะเป็นช่างฝีมือดีก็เป็นได้ถึงได้มีชื่อเสียยงจดบันทึกได้รับการยกย่องให้เป็น


เทพแห่งช่างไม้