โทมัส เอดิสัน (Thomas Alva Edison)
1. เอดิสัน เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1847 ที่เมืองมิลาน รัฐโอไฮโอ เขาเป็นลูกคนที่เจ็ดและคนสุดท้าย
ที่เกิดกับ Samuel Edison Jr. และ Nancy Elliott Edison
2. อายุ 12 หูหนวก 1 ข้าง อีกข้างเกือบหนวก เพราะติดเชื้อที่หู จากโรคไข้อีดำอีแดง
3. อายุ13 มาเป็นเด็กส่งของ อาหาร หนังสือพิมพ์ ในทางรถไฟระกว่างเมืองดีทรอยด์ กับ พอร์ตูรอน
ในรัฐมิชิแกน
4. ปี 1870 - 1875 เอดิสันทำงานที่ เมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ เกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ
โทรเลขให้บริษัทเวสเทิร์น ยูเนี่ยน เทเลกราฟ และคู่แข่งของบริษัท
5. 1875 เอดิสันเปิดร้านและห้องทดลองค้นคว้า ซึ่งเป็นร้านเครื่องจักร โดยความช่วยเหลือจากพ่อของเขา
ส่วนแม่ของเขานั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1871 ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่เขาแต่งงานกับ แมรี่ สติลเวลล์วัย 16 ปี
6. ร้านค้าและโรงงานประดิษฐ์ของเขาที่ Menlo Park ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
7. ปี 1877 เอดิสันได้พัฒนาเครื่องส่งคาร์บอนซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยปรับปรุงการได้ยินของโทรศัพท์
โดยทำให้สามารถส่งสัญญาณเสียงในระดับที่สูงขึ้นและมีความชัดเจนมากขึ้น
8. ปี 1877 เช่นกันจากการทำงานเกี่ยวกับ โทรเลข และ โทรศัพท์ ทำให้เขาคิดทำแผ่นเสียงได้สำเร็จ
และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว แม้ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะสามารถทำขายในเชิงพานริชย์ได้
9. ปี 1878 โทมัส อัลวา เอดิสัน ต้องการที่จะผลิตหลอดไฟที่ราคาถูกลงและไม่เป็นอันตราย(ปลอดภัย
กว่าเดิม ) เพื่อใช้ทดแทนหลอดแก๊ส ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายอย่างใหญ่หลวง แต่ด้วยการสนับสนุน
ทางการเงินจาก คนรวยคนดัง เช่น J.P. Morgan และ Vanderbilt Edison ทำให้เขาก่อตั้ง Edison Electric
Light Company และเริ่มทำการวิจัยและพัฒนา
10. ปี 1879 เขาก็สามารถคิดค้นผลิตหลอดไฟที่มีอายุการใช้งานยาวนานและราคาไม่แพงขึ้นได้
11. ปี 1881 เขาได้ก่อตั้งบริษัทไฟฟ้าแสงสว่างในนวร์ก
12. หลอดไฟของเขาอาจจะมีปัญหาในยุคแรกๆอยู่บ้างแต่ก็ถูกยกย่องเป็นอย่างดี อย่างเช่นที่
Paris Lighting Exhibition (นิทรรศการไฟฟ้าครั้งแรกในกรุงปารีส) ในปี 1881และ Crystal Palace
(นิทรรศการไฟฟ้าคริสตัล พาเลซ) ในลอนดอนในปี 1882 ซึ่งมี ระดับบริษัทและผู้ผลิตมากมายไปแสดง
13. เขามีคู่แข่งสำคัญ อย่าง George Westinghouse จอร์จ เวสติงเฮาส์ ได้พัฒนาระบบไฟฟ้ากระแสสลับ
มาจากงานวิจัยของ นิโคล่า เทสล่า แข่งกับ เอดิสันที่นำเสนอระบบไฟฟ้ากระแสตรง
14. แมรี่ภรรยาของเอดิสันเสียชีวิตในเดือนสิงหาคม 1884 และ ในปี 1886 เขาได้แต่งงานกับมิร์นา มิลเลอร์
อีกครั้ง พวกเขาจะมีลูกสามคนด้วยกัน
15. เขาได้ร่วมกับ วิลเลียม เคนเนดี้ ดิ๊กสัน ประสบความสำเร็จในการสร้างกล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหว
ที่ใช้งานได้ Kinetoscope คิเนโตสโคป เป็นเครื่องฉายภาพเคลื่อนไหว
16. เขาประสบความสำเร็จในการพัฒนาแบตเตอรี่เก็บอัลคาไลน์ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของพวกแผ่นเสียง (หีบเสียง)
17. ปี 1912 ผู้ผลิตรถยนต์ Henry Ford ได้ขอให้ Edison ออกแบบแบตเตอรี่สำหรับระบบสตาร์ทอัตโนมัติ
ของ รถFord Model T เป็นชื่อรถยนต์ในยุคบุกเบิก ออกแบบโดย เฮนรี่ ฟอร์ด, ชิลด์ ฮารอลด์ วิลส์
18. เขาเสียชีวิตในปี 1931 West Orange, นิวเจอร์ซีย์, อเมริกา แต่งงาน 2 ครั้ง มีบุตร 6 คน
19. เอดิสัน เป็นนักประดิษฐ์และนักธุรกิจที่เก่งกาจ
20. มีได้รับสิทธิบัตรจำนวน 1,093 ฉบับ ที่เขานั้นทั้งเป็นเจ้าของเองโดยไม่มีข้อโต้แย้ง และ ต่อสู้ทาง
กฎหมายมาด้วย
21. เป็นผู้อยู่ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังนวัตกรรมต่างๆ เช่น แผ่นเสียง หลอดไส้ แบตเตอรี่อัลคาไลน์ และ
กล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหวรุ่นแรก
22. เขายังได้สร้างห้องปฏิบัติการวิจัยอุตสาหกรรมแห่งแรกของโลก
23. เอดิสันเป็นที่รู้จักในนาม "พ่อมดแห่งเมนโลพาร์ค
24. ทั่วโลกนับถือและให้เขาเป็นหนึ่งในสุดยอดนักประดิษฐ์ ผู้มีความสำคัญ เป็นบุคคลสำคัญของโลก
ทั้งในอดีต จนมาถึงปัจจุบันอีกด้วย
25. โทมันอัลวา เอดิสัน มี สิทธิบัตร 389 ฉบับสำหรับไฟและพลังงานไฟฟ้า
26. โทมันอัลวา เอดิสัน มี สิทธิบัตร 195 ฉบับสำหรับแผ่นเสียง
27. โทมันอัลวา เอดิสัน มี สิทธิบัตร 150 สำหรับโทรเลข
28. โทมันอัลวา เอดิสัน มี สิทธิบัตร 141 สำหรับแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้
29. โทมันอัลวา เอดิสัน มี สิทธิบัตร 34 สำหรับโทรศัพท์
30. ก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ ภายใต้ชื่อ Edison Trust
31. ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จาก Union College
32. รางวัลนักประดิษฐ์ยอดเยี่ยมตลอดกาล ซึ่งคนดังอีกคนที่ได้ ในรุ่นหลังคือ สตีฟ จ็อบส์
33. เหรียญ Edward Longstreth Medal
34. เหรียญเกียรติยศกองทัพเรือเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทางทหารของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาและ
นาวิกโยธินสหรัฐ / Navy Distinguished Service Medal
35. รางวัล Technical Grammy Award เนื่องด้วย ผู้ประดิษฐ์แผ่นเสียง เทคโนโลยีภาพยนต์ยุคแรก และ
หลอดไส้
36. เหรียญทองของรัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกา (Congressional Gold Medal)
37. The Grammy Trustees Award ปี 1977 ให้กับบุคคลที่มีส่วนสำคัญในด้านดนตรี นอกเหนือ
จากการแสดง
38. Albert Medal เหรียญอัลเบิร์ตของสมาคมศิลปศาสตร์ ให้แก่ผู้ที่โดดเด่นในการส่งเสริมศิลปะ
ผู้ผลิตและการค้า
39. Matteucci Medal เป็นรางวัลที่ตั้งตาม คาร์โล มัตเตอุชชี่ (Carlo Matteucci) นักฟิสิกส์ชาวอิตาลี
40. Franklin Medal เหรียญรางวัลแฟรงคลินเป็นรางวัลวิทยาศาสตร์ โดยสถาบันแฟรงคลิน
41. Rumford Prize เป็นหนึ่งในรางวัลวิทยาศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา มอบให้ เอดิสัน
สำหรับงานไฟฟ้าแสงสว่าง
42. John Scott Legacy Medal and Premium รางวัลจอห์น สก็อตต์
43. John Fritz Medal เหรียญ John Fritz โดย American Association of Engineering Societies
สำหรับ "ความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์หรือทางอุตสาหกรรมที่โดดเด่น"
จอห์น ฟริตซ์ ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีเหล็กและเหล็กกล้าของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น
"บิดาแห่งอุตสาหกรรมเหล็กในสหรัฐฯ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น