หน้าเว็บ

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568

จักรพรรดิเมจิ Emperor Meiji

 


จักรพรรดิเมจิ Emperor Meiji


จักรพรรดิเมจิ (Emperor Meiji) เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 122 ของญี่ปุ่น 

ครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ. 1867–1912 และเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เรียกว่า 

“การฟื้นฟูเมจิ” ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นก้าวเข้าสู่ความทันสมัยและกลายเป็นมหาอำนาจโลก



- พระนามเดิม: มุตสึฮิโตะ (Mutsuhito)

- พระราชสมภพ: 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1852 ที่เกียวโต

- บรมราชาภิเษก: 12 ตุลาคม ค.ศ. 1868

- สวรรคต: 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1912 ที่โตเกียว สิริพระชนมายุ 59 พรรษา

- พระนามหลังสวรรคต: จักรพรรดิเมจิ (明治天皇)


🌏 บทบาทและความสำคัญ

- การฟื้นฟูเมจิ (Meiji Restoration)

- ยกเลิกระบบโชกุนและฟื้นฟูอำนาจจักรพรรดิ

- ปฏิรูประบบการปกครอง เศรษฐกิจ และสังคมให้ทันสมัยตามแบบตะวันตก

- ส่งนักเรียนและคณะทูตไปศึกษาต่างประเทศ

- ปรับปรุงกองทัพและอุตสาหกรรม ทำให้ญี่ปุ่นสามารถแข่งขันกับมหาอำนาจตะวันตกได้


- การเปลี่ยนแปลงทางสังคม

- ยกเลิกระบบศักดินา (ไดเมียวและซามูไร)

- ส่งเสริมการศึกษาและวิทยาศาสตร์

- เปิดประเทศรับเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ ๆ


- ผลกระทบต่อโลก

- ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศเอเชียแรกที่ทันสมัยและมีอำนาจทัดเทียมตะวันตก

- สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของจักรพรรดิญี่ปุ่นในฐานะผู้นำแห่งความก้าวหน้า



จักรพรรดิเมจิเป็นผู้นำที่ เปลี่ยนญี่ปุ่นจากสังคมศักดินาแบบเอโดะ สู่รัฐชาติสมัยใหม่ 

และวางรากฐานให้ญี่ปุ่นกลายเป็นมหาอำนาจในศตวรรษที่ 20


เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 122 แห่งญี่ปุ่น (ครองราชย์ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2410 – 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2455)


เป็นจอมพลคนแรกของจักรวรรดิญี่ปุ่น 


เป็นโอรสคนที่สองของจักรพรรดิโคเม และมารดาของเขาคือ นากายามะ เคอิโกะ


ทรงเป็นประจักษ์พยานถึงการเปลี่ยนแปลงของญี่ปุ่นจากรัฐศักดินาสู่มหาอำนาจอุตสาหกรรมโลก


เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนมายุ 14 พรรษา ตามลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ ในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 1868


สถาปนาเป็นจักรพรรดิเมจิ หลังจากการเสด็จเยือนโตเกียวครั้งที่สองในวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1869


จักรพรรดิเมจิได้รับการยกย่องจากบางคนว่าเป็นจักรพรรดิผู้ทรงปรีชาญาณและเมตตาธรรม 


เป็นจักรพรรดิที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น 


จักรพรรดิเมจิเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1912 (เมจิ 45) ณ พระราชวังอิมพีเรียลโตเกียว 


ขณะมีพระชนมายุ 59 พรรษา


จักรพรรดิเมจิ ทรงมีพระอาการประชวรด้วยโรคไตอักเสบ และโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ 


เสด็จสวรรคตด้วยโรคยูรีเมีย


พระราชโอรสองค์โต จักรพรรดิไทโช ขึ้นครองราชย์แทนพระองค์


หลังจากการสวรรคตของจักรพรรดิในปี 1912 สภานิติบัญญัติญี่ปุ่นได้มีมติเพื่อรำลึกถึง


บทบาทของพระองค์ในการปฏิรูปเมจิ สวนไอริสในพื้นที่ของโตเกียวซึ่งจักรพรรดิเมจิ


และจักรพรรดินีเคยเสด็จประพาส ได้รับเลือกให้เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าชินโตเมจิจิงกู 


ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่มีหลุมพระศพของจักรพรรดิ ซึ่งตั้งอยู่ที่ปราสาทฟูชิมิ-โมโมยามะ ทางตอนใต้ของเกียวโต






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น