จักรพรรดิเมจิ Emperor Meiji
จักรพรรดิเมจิ (Emperor Meiji) เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 122 ของญี่ปุ่น
ครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ. 1867–1912 และเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เรียกว่า
“การฟื้นฟูเมจิ” ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นก้าวเข้าสู่ความทันสมัยและกลายเป็นมหาอำนาจโลก
- พระนามเดิม: มุตสึฮิโตะ (Mutsuhito)
- พระราชสมภพ: 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1852 ที่เกียวโต
- บรมราชาภิเษก: 12 ตุลาคม ค.ศ. 1868
- สวรรคต: 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1912 ที่โตเกียว สิริพระชนมายุ 59 พรรษา
- พระนามหลังสวรรคต: จักรพรรดิเมจิ (明治天皇)
🌏 บทบาทและความสำคัญ
- การฟื้นฟูเมจิ (Meiji Restoration)
- ยกเลิกระบบโชกุนและฟื้นฟูอำนาจจักรพรรดิ
- ปฏิรูประบบการปกครอง เศรษฐกิจ และสังคมให้ทันสมัยตามแบบตะวันตก
- ส่งนักเรียนและคณะทูตไปศึกษาต่างประเทศ
- ปรับปรุงกองทัพและอุตสาหกรรม ทำให้ญี่ปุ่นสามารถแข่งขันกับมหาอำนาจตะวันตกได้
- การเปลี่ยนแปลงทางสังคม
- ยกเลิกระบบศักดินา (ไดเมียวและซามูไร)
- ส่งเสริมการศึกษาและวิทยาศาสตร์
- เปิดประเทศรับเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ ๆ
- ผลกระทบต่อโลก
- ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศเอเชียแรกที่ทันสมัยและมีอำนาจทัดเทียมตะวันตก
- สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของจักรพรรดิญี่ปุ่นในฐานะผู้นำแห่งความก้าวหน้า
จักรพรรดิเมจิเป็นผู้นำที่ เปลี่ยนญี่ปุ่นจากสังคมศักดินาแบบเอโดะ สู่รัฐชาติสมัยใหม่
และวางรากฐานให้ญี่ปุ่นกลายเป็นมหาอำนาจในศตวรรษที่ 20
เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 122 แห่งญี่ปุ่น (ครองราชย์ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2410 – 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2455)
เป็นจอมพลคนแรกของจักรวรรดิญี่ปุ่น
เป็นโอรสคนที่สองของจักรพรรดิโคเม และมารดาของเขาคือ นากายามะ เคอิโกะ
ทรงเป็นประจักษ์พยานถึงการเปลี่ยนแปลงของญี่ปุ่นจากรัฐศักดินาสู่มหาอำนาจอุตสาหกรรมโลก
เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนมายุ 14 พรรษา ตามลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ ในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 1868
สถาปนาเป็นจักรพรรดิเมจิ หลังจากการเสด็จเยือนโตเกียวครั้งที่สองในวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1869
จักรพรรดิเมจิได้รับการยกย่องจากบางคนว่าเป็นจักรพรรดิผู้ทรงปรีชาญาณและเมตตาธรรม
เป็นจักรพรรดิที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
จักรพรรดิเมจิเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1912 (เมจิ 45) ณ พระราชวังอิมพีเรียลโตเกียว
ขณะมีพระชนมายุ 59 พรรษา
จักรพรรดิเมจิ ทรงมีพระอาการประชวรด้วยโรคไตอักเสบ และโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ
เสด็จสวรรคตด้วยโรคยูรีเมีย
พระราชโอรสองค์โต จักรพรรดิไทโช ขึ้นครองราชย์แทนพระองค์
หลังจากการสวรรคตของจักรพรรดิในปี 1912 สภานิติบัญญัติญี่ปุ่นได้มีมติเพื่อรำลึกถึง
บทบาทของพระองค์ในการปฏิรูปเมจิ สวนไอริสในพื้นที่ของโตเกียวซึ่งจักรพรรดิเมจิ
และจักรพรรดินีเคยเสด็จประพาส ได้รับเลือกให้เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าชินโตเมจิจิงกู
ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่มีหลุมพระศพของจักรพรรดิ ซึ่งตั้งอยู่ที่ปราสาทฟูชิมิ-โมโมยามะ ทางตอนใต้ของเกียวโต