จอร์จ ไซมอน โอห์ม ( George Simon Ohm)
- เกิดในวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1787 บ้านเกิดของเขาอยู่ที่เมืองเออร์แลงเกน
ในประเทศเยอร์มนี
- บิดาของเขาชื่อว่า โจฮัน โอห์ม (John Ohm) มีอาชีพเป็นช่างทำกุญแจ และปืน
- โอห์มเป็นคนใฝ่รู้ใฝ่เรียนถึงแม้ครอบครัวของเขาจะค่อนข้างยากจนแต่เขา
ก็ไม่ทิ้งการเรียน
- เขาจบการศึกษาในช่วงแรกจากโรงเรียนรีลสคูลในแบมเบิร์ก และต่อที่
มหาวิทยาลัยแห่งเมืองเออร์แลงเกน (University of Erlangen) ซึ่งเขาได้ศึกษา
เกี่ยวกับ วิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์
- แต่ด้วยที่บ้านเขายากจนทำให้เขาเรียนอยู่ที่นั่นได้เพียงปีเดียวก็ต้องลาออกมา
- ต่อมาเขาก็ได้เข้าไปเป็นครูสอนหนังสือที่โรงเรียนแห่งหนุ่งในเมือง เบิร์น
สวิสเซอร์แลนด์ เมื่อมีรายได้มากพอเขาก็ได้ศึกษาต่อ และทำงานไปด้วย
จนสามารถจบปริญญาเอกคณิตศาสตร์
- ปี ค.ศ. 1817 โอห์มได้รับเชิญจากพระเจ้าเฟรดเดอริคแห่งปรัสเซีย ให้เข้ามานั่ง
ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์ ประจำวิทยาลัยจีสุท
(Jesuit College) แห่งมหาวิทยาลัยโคโลญ (Cologne University)
- ในปี ค.ศ. 1822 โจเซฟ ฟอร์เรอร์ นักวิทยาศาสตร์จากฝรั่งเศสไปออกผลงาน
ชื่อว่า การไหลของความร้อน ซึ่งพูดเกี่ยวกับเรื่องการเคลื่อนที่ของความร้อน
เมื่อ จอร์จ ไซม่อน โอห์ม ได้อ่านก็มีความสนใจเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำเรื่องนี้
แต่เป็นกับไฟฟ้าดูบ้าง โดยใช้การทดลองและหลักการเดียวกัน
- เขาได้เริ่มทดสอบงานของเขามากมายการเคลื่อนที่ของไฟฟ้าด้วยตัวนำไฟฟ้า
เช่น ทองแดง เงิน หรืออะลูมิเนียม ซึ่งเป็นตัวนำไฟฟ้าที่เขาคิดว่าดี
- หลังจากที่ โอห์ม ทดลอง วัดผล จนสำเร็จ เขาก็ได้ไปเป็นอาจารย์ที่ยิมเนเซียม
- ปี ค.ศ. 1826 โอห์มได้จัดพิมพ์หนังสือออกมาเล่มหนึ่งชื่อว่า Bestimmung
des Gesetzes nach Welohem die Metalle die Kontaktee
- ให้หลังอีกแค่ปีเดียวเขาก็ทดลองเรื่องเกี่ยวกับไฟฟ้าจนค้นพบ ความจริง
อีก 2 ประเด็นคือ 1. ความยาวของสายไฟ ถ้ายิ่งยาวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีความ
ต้านทานไฟฟ้ามากและยิ่งมีพื้นที่หน้าตัดมากก็ยิ่งต้านทานไฟฟ้ามากเช่นกัน
ทำให้กระแสไฟฟ้านั้นสามารถไหลได้น้อยลง เขาจึงได้เขียนการค้นพบนี้
ลงในหนังสือ Die Galvanisehe Katte Mathemetisoh Bearbeitet
- หนังสือ ข้างบนที่ว่ามานั้นมีการอธิบายเกี่ยวกับ การทดลงอของเขาซึ่งเขา
ตั้งชื่อมันว่ากฎของโอห์ม (Ohm's Law) โดยมีหลักสำคัญว่า การเคลื่อนที่
ของกระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวนำไฟฟ้า ใช้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้า
กับ ความต่างศักย์ไฟฟ้า และ กระแสไฟฟ้ากับความต้านทาน กล่าวคือ
กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวนำใดๆ แปรผันโดยตรงกับความต่างศักย์
(แรงดันไฟฟ้า หรือแรงดันตกคร่อม)
(คือกระแสมีค่ามากหรือน้อยตามความต่างศักย์นั้น) บรรยายการทดลอง
วัดค่าแรงดันและกระแสผ่านลวดความยาวต่าง ๆ กัน
- โดยที่ V คือความต่างศักย์ มีหน่วยเป็น โวลต์ // I คือกระแสในวงจร
หน่วยเป็น แอมแปร์ และ R คือความต้านทานในวงจร หน่วยเป็น โอห์ม
- แทนที่ผลงานของเขาจะเป้นที่ยอมรับในบ้านเกิดเขาเอง ที่เยอรมัน
แต่กลับโดนต่อต้านเพราะความที่ไมเข้าใจ ไม่รู้เรื่อง แต่กลับชาติอื่นๆ
ในตะวันตกผลงานของ
จอร์จ ไซม่อน โอห์ม นั้นเป็นที่สนใจและดูมีค่าอย่างยิ่ง
- ในปี ค.ศ. 1841 โอห์มได้รับมอบเหรียญคอพเลย์ (Copley Medal) จาก
ราชสมาคมแห่งกรุงลอนดอน (Royal Society of London) และได้รับเชิญ
ให้เป็นสมาชิกในสมาคมนี้อีกด้วยในปีถัดมา ทำให้ทางเยอรมันเริ่มสนใจ
ในตัวโอห์มมากขึ้น
- ในปี ค.ศ. 1849 เขาเดินทางกลับไปเยอรมันบ้านเกิด หลังจากที่อยู่อังกฤษ
มาหลายปี เมื่อมาถึงเขาได้รับเชิญให้เป็นศาสตราจารย์ ประจำมหาวิทยาลัยมิวนิค
(Munich University)
- เขาก็ยังมีการทดลองค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องแสงด้วยนะครับ แต่คงไม่เป็นที่สนใจ
เท่าไหร่ คงไม่โดดเด่นเรื่องแสงไปมากกว่าทางปีทาโกรัส ซักเท่าไหร่
** แต่ถ้านับเรื่องไฟฟ้าเขาเป้นบุคคลสำคัญ ในด้านนี้ที่ส่งผลให้เกิดการพัฒนา
และต่อยอดให้ทันสมัยผลงานชิ้นนี้ของโอห์มเป็นงาน ที่มีคุณประโยชน์มากโอห์ม
เสียชีวิตในวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1854 ที่มิวนิคประเทศเยอรมนี ถึงแม้ว่า
เขาจะไม่ได้มีชีวิตอยู่บนดลกใบนี้แล้วแล้วแต่ชื่อของเขา ผลงานของเขา
ก็ยังถูกนำมาใช้เป็นหน่วยวัดความต้านทานไฟฟ้า
- ในปี ค.ศ. 1881สมาคมไฟฟ้านานาชาติ (Internation Congress of Electrical
Engineers) ได้ตกลงร่วมกันว่าจะใช้ชื่อของโอห์ม เป็น หน่วยวัดความต้านทานไฟฟ้า
โดยความต้านทาน 1 โอห์ม หมายถึง กระแสไฟฟ้า 1 แอมแปร์ ไหลผ่าน
บนตัวนำไฟฟ้าภายใต้ความต่างศักย์ไฟฟ้า 1 โวลต์ เพื่อเป็นเกียรติให้แก่
จอร์จ ไซม่อน โอห์ม